ภาพวาดที่ตัดกันอย่างหนักและการเล่าเรื่องที่มืดมนของแบลร์ได้รับอิทธิพลจากเอ็ดเวิร์ด โกรีย์[4][5] หนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์กล่าวถึงงานของเขาในเรื่องเดอะฮันติงแอ็กซิเดนต์ว่าวาดไว้ด้วย "ความเร่าร้อนเชิงย้ำเขียน"[6]

หนังสือ

แลนดิส แบลร์ มีชื่อเสียงใน ค.ศ. 2017 ด้วยภาพประกอบ 420 หน้าสำหรับเดอะฮันติงแอ็กซิเดนต์: อะทรูสตอรีออฟไครม์แอนด์โพอิทรี ซึ่งเขียนโดยเดวิด คาร์ลสัน[7][8][9][10] และในปีเดียวกันนั้นได้มีการตีพิมพ์หนังสือเล่มที่สองของเคตลิน เดาตี ในชื่อฟรอมเฮียร์ทูอีเทอร์นิตี ที่มีภาพประกอบโดยแบลร์[11]

เขาทั้งเขียนและวาดภาพดิเอนเวียสซิบลิงส์: แอนด์อาเทอร์มอร์บิดเนิร์สเซอรีไรมส์ สำหรับตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์นอร์ตันใน ค.ศ. 2019[12] ตามมาด้วยเดอะไนต์เต็นท์สำหรับสำนักพิมพ์ฮอลิเดย์เฮาส์ใน ค.ศ. 2023[13][14][15][16]

นอกจากนี้ แบลร์ยังเขียนและจัดพิมพ์หนังสือบางเล่มของเขาเองภายใต้สำนักพิมพ์แซสเตอร์กูดเมนต์เพรส[17]

นิทรรศการ

• พิพิธภัณฑ์ศิลปะมัสคีกัน ในงานอันดายอิงเทรดิชันส์: เมเมนโตโมรี ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะมัสคีกัน โดยเป็นการแสดงแบบกลุ่ม ค.ศ. 2019[18][19]

• มหาวิทยาลัยอินดีแอนา นอร์ทเวสต์ ในงานเดอะฮันติงแอ็กซิเดนต์: เฟิสต์แชปเตอร์ ซึ่งเป็นงานศิลปะต้นฉบับจากนิยายภาพ ในการแสดงเดี่ยว ค.ศ. 2019[20][21][22]

• มหาวิทยาลัยนอร์เทิร์นอิลลินอย ในงานเมิร์ธแอนด์เมย์เฮม: แลนดิส แบลร์ ซีเลกชันส์ออฟดรออิงส์แอนด์บุ๊กส์ ค.ศ. 2021[23][24]

• ไซด์โชว์แกลเลอรี ชิคาโก ในงานเธรโชลส์: แอนเอกซิบิชันออฟดรออิงส์บายแลนดิส แบลร์ ค.ศ. 2023[25]

ผลงานอื่น

ห้องโถงของอาคารอพาร์ตเมนต์อาร์ตเดโคในย่านกลางเมืองเมมฟิสมีผลงานเฉพาะที่เป็นกระจกสลักลายโดยแลนดิส แบลร์ โดยแสดงแผนที่เมืองเมมฟิส, สถานที่ทางประวัติศาสตร์ และประวัติความเป็นมาของอาคาร[26][27]

ภาพประกอบของเขาปรากฏในสิ่งพิมพ์และนิตยสารออนไลน์[28] รวมถึงนำไปใช้ในงานพาณิชยศิลป์ เช่น การออกแบบทีเชิร์ตและกระเป๋าโท้ต[29]